Workflow Automation แบบ No Code ด้วย n8n
n8n (อ่านว่า “n-eight-n” หรือ “โนดเมชั่น”) คือ เครื่องมืออัตโนมัติเวิร์กโฟลว์แบบ Low-Code ที่มี Source Available ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชันและบริการต่างๆ เพื่อสร้างระบบอัตโนมัติที่ซับซ้อนได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดมากนัก
มันมีหน้าตาให้เราลากๆ วางๆ ต่อบล็อก (แต่ละบล็อกก็แทนแต่ละสเต็ปในการทำงาน) เพื่อสร้างเวิร์กโฟลว์ที่มันจะทำงานเองเมื่อมีอะไรเกิดขึ้น, ทำตามเวลาที่เราตั้งไว้, หรือสั่งให้มันทำตอนไหนก็ได้ที่เราต้องการ
n8n เนี่ยเป็นโอเพนซอร์ส แถมลงเองได้หมดเลย ทำให้ทีมเราคุมข้อมูล, การทำงานของระบบ, แล้วก็การเอาไปใช้ได้เต็มที่ มันเชื่อมต่อกับแอปฯ ต่างๆ ได้เพียบ มีคนช่วยซัพพอร์ตเยอะ แล้วเรายังต่อเติมแพลตฟอร์มให้มันทำอะไรที่เราอยากให้ทำได้อีกด้วย
คอนเซ็ปต์หลักๆ กับโครงสร้างมัน
หลักๆ เลยคือ n8n มันให้เราเอาบล็อกมาต่อๆ กันเพื่อสร้างเวิร์กโฟลว์ ไอ้บล็อกพวกนี้ก็เป็นได้ทั้งตัวจุดชนวนให้เวิร์กโฟลว์เริ่มทำงาน (เช่น พวก webhook) หรือเป็นตัวสั่งให้ทำอะไรบางอย่าง (เช่น เรียก API หรือแปลงข้อมูล)
ข้อมูลมันจะไหลจากบล็อกนึงไปอีกบล็อกนึง ทำให้เราทำอะไรได้ตั้งแต่ส่งข้อความเตือนง่ายๆ ไปจนถึงสร้างระบบที่ซับซ้อนมีการแตกกิ่งก้านตรรกะเยอะแยะ
สถาปัตยกรรมของมันเป็นแบบที่ทำงานตามเหตุการณ์ ทำให้มันรองรับทั้งการทำงานแบบเรียลไทม์เมื่อมีอะไรมากระทบ หรือจะตั้งเวลาให้มันทำงานเองก็ได้ ทำให้มันเอาไปใช้ทำระบบอัตโนมัติได้เกือบทุกอย่างเลยแหละ

รูปแบบการใช้งาน n8n
- Cloud (ผ่าน n8n.io): ไม่ต้องตั้งค่าใดๆ เพียงสมัครใช้งานก็สามารถสร้าง Automation ได้ทันที มีค่าใช้จ่าย แต่สามารถทดลองใช้งานฟรี (แต่อย่าลืมกดยกเลิกล่ะ 555)
- Self-Hosted (ติดตั้งใช้งานเอง): สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระบบอย่างเต็มที่ n8n สามารถติดตั้ง n8n ได้แบบฟรีๆ บนคอมพ์ตัวเอง เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว หรือบริการ Cloud เช่น Docker หรือ npm โดยไม่มีข้อจำกัดในการรัน Workflow เรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ สำหรับสายประหยัด!
คุณสมบัติหลักของ n8n:
- อินเทอร์เฟซแบบ Drag-and-Drop: สร้างเวิร์กโฟลว์ด้วยการลากและวาง “Nodes” ซึ่งแต่ละ Node แทนการทำงานหรือการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันต่างๆ
- ความยืดหยุ่นแบบ Low-Code: แม้จะมีการสร้างเวิร์กโฟลว์ด้วยภาพ แต่คุณยังสามารถเพิ่ม JavaScript ที่กำหนดเองสำหรับความต้องการที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นได้
- Source Available และ Self-Hostable: คุณสามารถติดตั้ง n8n บนโครงสร้างพื้นฐานของคุณเอง ทำให้คุณควบคุมข้อมูลและความปลอดภัยได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีรุ่น Cloud ที่ n8n ดูแลจัดการให้
- การเชื่อมต่อที่หลากหลาย: รองรับการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันและบริการต่างๆ มากมาย เช่น Slack, GitHub, Google Sheets, APIs และอื่นๆ อีกมากมาย และยังสามารถสร้าง Custom Node สำหรับการเชื่อมต่อที่ไม่พร้อมใช้งานได้
- การจัดการเวิร์กโฟลว์ที่มีประสิทธิภาพ: สามารถสร้าง, แก้ไข, แชร์, นำเข้า และส่งออกเวิร์กโฟลว์ได้อย่างง่ายดาย
- การเรียกใช้งานเวิร์กโฟลว์ที่หลากหลาย: สามารถตั้งค่าให้เวิร์กโฟลว์ทำงานตามเหตุการณ์ (Event-triggered), ตามกำหนดเวลา (Scheduled), หรือเมื่อมีการเรียกใช้งาน (On-demand)
- ความสามารถด้าน AI: มีความสามารถในการผสานรวมกับ Large Language Models (LLMs) เพื่อสร้างเวิร์กโฟลว์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

การติดตั้ง ในกรณีที่ใช้ Docker และติดตั้ง Docker เรียบร้อยแล้ว
สร้างไฟล์ .env เพื่อเก็บลักษณะและข้อกำหนดต่าง ๆ
# DOMAIN_NAME and SUBDOMAIN together determine where n8n will be reachable from
# The top level domain to serve from
DOMAIN_NAME=example.com
# The subdomain to serve from
SUBDOMAIN=n8n
# The above example serve n8n at: https://n8n.example.com
# Optional timezone to set which gets used by Cron and other scheduling nodes
# New York is the default value if not set
GENERIC_TIMEZONE=Europe/Berlin
# The email address to use for the TLS/SSL certificate creation
SSL_EMAIL=user@example.com
สร้าง folder สำหรับเก็บไฟล์ Docker Composer (docker-compose.yml)
services:
traefik:
image: "traefik"
restart: always
command:
- "--api=true"
- "--api.insecure=true"
- "--providers.docker=true"
- "--providers.docker.exposedbydefault=false"
- "--entrypoints.web.address=:80"
- "--entrypoints.web.http.redirections.entryPoint.to=websecure"
- "--entrypoints.web.http.redirections.entrypoint.scheme=https"
- "--entrypoints.websecure.address=:443"
- "--certificatesresolvers.mytlschallenge.acme.tlschallenge=true"
- "--certificatesresolvers.mytlschallenge.acme.email=${SSL_EMAIL}"
- "--certificatesresolvers.mytlschallenge.acme.storage=/letsencrypt/acme.json"
ports:
- "80:80"
- "443:443"
volumes:
- traefik_data:/letsencrypt
- /var/run/docker.sock:/var/run/docker.sock:ro
n8n:
image: docker.n8n.io/n8nio/n8n
restart: always
ports:
- "127.0.0.1:5678:5678"
labels:
- traefik.enable=true
- traefik.http.routers.n8n.rule=Host(`${SUBDOMAIN}.${DOMAIN_NAME}`)
- traefik.http.routers.n8n.tls=true
- traefik.http.routers.n8n.entrypoints=web,websecure
- traefik.http.routers.n8n.tls.certresolver=mytlschallenge
- traefik.http.middlewares.n8n.headers.SSLRedirect=true
- traefik.http.middlewares.n8n.headers.STSSeconds=315360000
- traefik.http.middlewares.n8n.headers.browserXSSFilter=true
- traefik.http.middlewares.n8n.headers.contentTypeNosniff=true
- traefik.http.middlewares.n8n.headers.forceSTSHeader=true
- traefik.http.middlewares.n8n.headers.SSLHost=${DOMAIN_NAME}
- traefik.http.middlewares.n8n.headers.STSIncludeSubdomains=true
- traefik.http.middlewares.n8n.headers.STSPreload=true
- traefik.http.routers.n8n.middlewares=n8n@docker
environment:
- N8N_HOST=${SUBDOMAIN}.${DOMAIN_NAME}
- N8N_PORT=5678
- N8N_PROTOCOL=https
- NODE_ENV=production
- WEBHOOK_URL=https://${SUBDOMAIN}.${DOMAIN_NAME}/
- GENERIC_TIMEZONE=${GENERIC_TIMEZONE}
volumes:
- n8n_data:/home/node/.n8n
- ./local-files:/files
volumes:
n8n_data:
traefik_data:
กำหนด folder สำหรับเก็บข้ออื่น ๆ ที่จำเป็น
Name | Type | Container mount | Description |
---|---|---|---|
n8n_data | Volume | /home/node/.n8n | Where n8n saves its SQLite database file and encryption key. |
traefik_data | Volume | /letsencrypt | Where traefik saves the TLS/SSL certificate data. |
./local-files | Bind | /files | A local directory shared between the n8n instance and host. In n8n, use the /files path to read from and write to this directory. |
เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถ Start Docker ได้เลย
sudo docker compose up -d
หากไม่มีอะไรผิดพลาด จะสามารถเข้าใช้งาน n8n ผ่าน https://n8n.sample.com ได้ซึ่งระบุไว้ใน .env ข้างต้น (n8n ใช้งานได้เฉพาะ https เท่านั้น)
เพิ่มเติมและสรุป
n8n เหมาะสำหรับ:
- การทำงานอัตโนมัติของงานที่ซ้ำซาก: ลดภาระงานที่ต้องทำซ้ำๆ ในแต่ละวัน
- การสร้าง Data Pipelines: เชื่อมต่อและประมวลผลข้อมูลจากแหล่งต่างๆ
- การสร้าง Custom Integrations: เชื่อมต่อแอปพลิเคชันที่ไม่สามารถสื่อสารกันได้โดยตรง
- การพัฒนา AI-Powered Workflows: สร้างระบบอัตโนมัติที่ใช้ประโยชน์จาก AI
ข้อดีของ n8n:
- ใช้งานง่าย: อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายช่วยให้ผู้ที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ก็สามารถสร้างระบบอัตโนมัติได้
- มีความยืดหยุ่นสูง: สามารถปรับแต่งและขยายการทำงานได้ด้วย JavaScript
- ควบคุมข้อมูลได้เต็มที่: การ Self-Host ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล
- คุ้มค่า: มีรุ่น Community ที่ใช้งานได้ฟรีสำหรับการ Self-Host
- มี Community ที่แข็งแกร่ง: มีผู้ใช้งานและผู้พัฒนาจำนวนมากที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ
โดยสรุป n8n เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นสำหรับการสร้างระบบอัตโนมัติเวิร์กโฟลว์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีความรู้ทางเทคนิคในระดับต่างๆ และต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วยการลดงานที่ต้องทำซ้ำๆ